วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

น้ำมะละกอปั่น

   มะละกอเป็นผลไม้คู่บ้านคู่เมืองของคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ผลดิบนำมาทำอาหารคาว ได้เช่น แกงส้ม ส้มตำ ส่วนผลสุกก็นำมารับประทานเพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น หรือจะนำมาทำเป็นน้ำผลไม้ยิ่งน่าดื่ม เพราะสีสันสวยงามและมีกลิ่นหอมอีกด้วยค่ะ ส่วนผสมและวิธีทำก็ไม่ยาก ลองทำดูเลยค่ะ

น้ำมะละกอปั่น

ส่วนผสม
1.เนื้อมะละกอสุกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
2.น้ำแข็งเกล็ด
3.น้ำเชื่อม
4.เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ
นำทุกอย่างเข้าเครื่องปั่นเมื่อได้ที่แล้วเทลงใส่แก้วทรงสูง ตกแต่งนิดหน่อย พร้อมเสิร์ฟทันที

เกร็ดน่ารู้
1.น้ำมะละกอปั่นเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับอากาศเมืองไทย แก้ร้อนผ่อนกระหายได้ดีมาก และที่สำคัญสามารถทำดื่มได้ตลอดทั้งปี เพราะมะละกอเป็นผลไม้ที่หาซื้อได้ในทุกฤดูกาลค่ะ









องุ่นเขียวซ่า


   องุ่นเป็นพืชยืนต้น มีลักษณะเป็นไม้พุ่มเลื้อยมีลักษณะเนื้อแข็งและมีลำต้น กิ่งถาวรอายุเกิน 1 ฤดู องุ่นมีสารอาหารที่สำคัญคือน้ำตาลและสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์ เช่น น้ำตาลกลูโคส, น้ำตาลซูโคส, วิตามินซี, เหล็กและแคลเซียม องุ่นยังสามารถนำไปทำเป็นเหล้าองุ่นซึ่งเป็นเหล้าบำรุงใช้เป็นยา การรับประทานองุ่นเป็นประจำมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง, บำรุงหัวใจ, แก้กระหาย, ขับปัสสาวะและบำรุงกำลัง

       องุ่นเขียวซ่า

ส่วนผสม
องุ่นเขียว (เอาเมล็ดออก)  แช่เย็น   160  กรัม
น้ำมะนาว                             1  ช้อนโต๊ะ
น้ำเชื่อมแช่เย็น                    ¼   ถ้วย
น้ำโซดาแช่เย็น       1  ขวด
น้ำแข็งชนิดก้อน

วิธีการทำ
1.ใส่องุ่นเขียว  น้ำมะนาว  และน้ำเชื่อม  ลงในโถปั่น  ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด
2.รินใส่แก้วน้ำแข็ง  2  แก้ว  ตามด้วยน้ำโซดา  1  ขวด  (แบ่งเป็นส่วน 2 ส่วน)  ตกแต่งตามใจชอบแล้ว พร้อมเสิร์ฟ


เกร็ดน่ารู้
1.แช่องุ่นในน้ำเกลือ ทิ้งไว้ ๕ - ๑๐ นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือใช้ยาสีฟันละลายน้ำล้างผลองุ่น แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด คราบสีขาว ๆ จะหลุดออกได้โดยง่าย
ที่สำคัญ ผลองุ่นที่ล้างแล้ว ต้องทานให้หมดภายใน ๑ - ๒ วัน ไม่เช่นนั้นความหวานจะลดลงและผลองุ่นจะแตกเนื่องจากผลได้ดูดน้ำไว้เต็มที่ 



แตงโมปั่น

  แตงโมเป็นผักตระกูลแตง ที่คนไทยรู้จักบริโภคกันมานานแล้ว นอกจากนิยมใช้ผลรับประทานแล้ว ส่วนของผลอ่อน ยอดอ่อนยังใช้ในการปรุงอาหารได้หลายชนิด แตงโมเเป็นพืชที่ปลูกง่ายสามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยทุกฤดูกาลตลอดปี แตงโมปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด แต่ปลูกได้ดีในสภาพดินร่วนปนทราย และแตงโมยังช่วยป้องกันการติดเชื้อ ลดความอ้วน ทำให้แผลหายเร็วด้วย

         แตงโมปั่น
ส่วนผสม
แตงโมเนื้อสีแดง(เอาเมล็ดออก)  หั่นชิ้นเล็ก
น้ำเชื่อมแช่เย็น  ¼   ถ้วย+3  ช้อนโต๊ะ
น้ำเย็น               ¼  ถ้วย
น้ำแข็งทุบละเอียด         2      ถ้วย

วิธีการทำ
1.ใส่แตงโม  น้ำเชื่อม  น้ำ  และน้ำแข็ง  ลงในโถปั่น    ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด
2.รินใส่แก้ว  พร้อมเสิร์ฟ

เกร็ดน่ารู้  
1.เลือกแตงโมทั้งผลที่เคาะแล้วมีเสียงก้องหากซื้อที่ผ่าแล้ว  เนื้อมีสีแดงแน่น  ไม่แตกเป็นร่อง  รังเมล็ดหรือเนื้อที่อยู่รอบเมล็ดไม่เป็นร่องกว้าง  เมล็ดสีดำไม่ขาวถือว่าใช้ได้  100 % ค่ะ







น้ำมะนาวโซดา


     มะนาวเป็นผลไม้พื้นๆที่ใช้บริโภคกันในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่ามะนาวลูกเล็กๆนั้น มีประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆได้มากมายหลายโรคด้วยกัน ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่ใช้มะนาวรักษาโรค ประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย จีน และอินเดีย เขาก็ใช้มะนาวกัน ประเทศเพื่อนบ้านที่ไกลออกไป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และประเทศแถบอเมริกาตะวันตกก็ใช้มะนาวแก้ไอ,แก้เสียงแหบแห้ง,แก้ความดัน เป็นต้น

      น้ำมะนาวโซดา
ส่วนผสม
มะนาวหั่น
น้ำโซดาแช่เย็น     1    ขวด
เกลือ
น้ำแข็งชนิดก้อน
มะนาวหั่นแว่น

วิธีการทำ
1.ใส่น้ำแข็งให้เต็มทั้งสองแก้ว บีบน้ำมะนาวใส่แก้วละ ชิ้น  เติมน้ำโซดาให้ต่ำกว่าขอบแก้ว   นิ้ว  โรยเกลือ
2. ตกแต่งด้วยมะนาวหั่นแว่น (ตามใจชอบ)พร้อมเสิร์ฟ

เกร็ดน่ารู้ 
1. การผ่ามะนาวควรผ่าเฉพาะที่ต้องการใช้  ถ้าผ่าทิ้งไว้นานกลิ่นจะเหม็น  ส่วนน้ำมะนาวต้องใช้ทันทีเพราะ   กลิ่นจะเหม็นง่าย
2. มะนาวมีรสเปรี้ยวจัด  กลิ่นหอม  เลือกซื้อมะนาวทรงแป้น  เปลือกสีเขียวบาง  เพราะมีน้ำมาก
3.วิธีการเก็บมะนาวทำได้โดยนำลูกมะนาวห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลแล้วใส่ถุงพลาสติก  รัดปากถุง  ให้แน่น  ใส่ตู้เย็นช่องธรรมดา  เก็บได้นานเกือบเดือนนะจะบอกให้







วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

น้ำส้มปั่น


    ผลไม้กึ่งเมืองร้อน  รุปร่างกลมแบนเล็กน้อย  ผลดิบมีสีเขียวเข้ม  เปลือกเป็นมันวาว    เมื่อแก่จัดจะมีสีส้มปนเขียว   มีน้ำมากและรสหวานอมเปรี้ยว  เลือกส้มเขียวหวานที่เปลือกบาง  ผิวสวย  และผลกลมแป้น  เนื้อในเป็นสีส้มสด   ผลไม้นิ่มหรือแข็งเกินไป  ล้างผล  เช็ดให้แห้ง   ใช้มีดาบงที่มีความคมผ่าขวางลูก  แคะเอาเมล็ดออก

                น้ำส้มปั่น
ส่วนผสม
น้ำส้มคั้น      ½   ถ้วย
เนื้อแคนตาลูปหั่นชิ้นเล็กแช่แข็ง    1   ถ้วย
โยเกิร์ตรสธรรมชาติแช่เย็น  (150)     1    ถ้วย
น้ำเต้าหู้           ½   ถ้วย

วิธีการทำ
1.ใส่น้ำส้มคั้นลงในถาด นำไปแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งจนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ใส่ลงโถปั่น แล้วใส่แคนตาลูป โยเกิร์ต  และน้ำเต้าหู้  ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียดเนียน
2.รินใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ

เกร็ดน่ารู้
1.ส้มที่มีน้ำหนักผลละ 25 กรัม จำนวน 2 ผลจะคั้นน้ำได้ปริมาณ  ½  ถ้วย
2.ส้มวิตามินซีที่ช่วยป้องกันไข้หวัด โรคลักปิดลักเปิด และยังมีแอนติออกซิเดนท์ ป้องกันมะเร็งหลายชนิด รวมถึงโรควะเร็งลำไส้ใหญ่อีกด้วย
3.ใช้ส้มเขียวหวานหรือส้มสายน้ำผึ้งคั้นน้ำก็ได้ เนื่องจากมีรสหวานอมเปรี้ยวพอเหมาะ
4.เนื้อของส้มเขียวหวานมีวิตามินเอที่มากถึง  4,0000  ไมโครกรัม  นอกจากนั้นยังมีวิตามินซี   วิตามินบี1    วิตามินบี2  และเกลือแร่ชนิดต่างๆ ชวยแก้กระหาย
5.ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน  ป้องกันไข้หวัดช่วยลดปริมาณโคเลสเตอรอลในเลือด ช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารภายในร่างกายเป็นปกติค่ะ






ลาสซี่มะม่วง


     ผลไม้ที่มีรูปร่างมนรี  หรือกลมป้อม  ผลอ่อนมีสีเขียว  เมื่อแก่หรือสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด  ภายในผลมีเมล็ดเดียว   รสหวานหรือหวานอมเปรี้ยว  กลิ่นหอม  เลือกมะม่วงผลแก่เต็มที่  สังเกตจากเลือกมะม่วงมีสีเหลืองที่ก้นผล  แต่ตรงขั้วยังมีสีเขียวอยู่มะม่วงจะมีรสหวาน  กลิ่นหอม  ล้างมะม่วงทั้งเปลือก  ปอกเปลือกมะม่วงด้วยมีดบางที่มีความคมผ่านเนื้อมะม่วงเป้นชิ้น

ลาสซี่มะม่วง
ส่วนผสม
เนื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สุก
หั่นชิ้นแช่เย็น        1 ½   ถ้วย
โยเกิร์ตรสธรรมชาติแช่เย็น  (150)     1    ถ้วย
นมสดจืดแช่เย็น      1 ½   ถ้วย
น้ำผึ้ง(ละลายกับน้ำ  1 ช้อนโต๊ะ)    ช้อนโต๊ะ
ผลึกน้ำตาลแท่งสำหรับตกแต่ง

วิธีการทำ
1. ใส่มะม่วง โยเกิร์ต นมสด และน้ำผึ้ง สงในโถปั่น ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียดเนียน
2. รินใส่แก้ว ตกแต่งด้วยผลึกน้ำตาลแท่งพร้อมเสิร์ฟ

เกร็ดน่ารู้  
1.นิยมดื่มกันในประเทศอินเดีย มักโรยด้วยอบเชยป่นช่วยดับกระหายคลายร้อน
2 .มะม่วงสุก เนื้อนุ่มรสหวาน กลิ่นหอม มีสรรพคุณเป็นยาแก้ไอ ละลายเสมหะ และขับปัสสาวะ
3.เลือกซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้ที่แก่จัด  สุกจากการบ่มธรรมชาติ  สังเกตเปลือกมะม่วงมีสีเหลืองที่ก้นผล  แต่ขั้วยังสีเขียวอยู่  มะม่วงจะมีรสหวาน  กลิ่นหอม
4. เนื้อมะม่วง 100   กรัม มีเบต้าแคโรทีน จึงช่วยบำรุงสายตา  ป้องกันและรักษาโรคตาฝ้าฟางได้ดี



สับปะรดปั่น


     ผลรูปมนรี  โคนกว้างกว่าส่วนปลาย  ปลายผลมีใบเป็นกระจุกเขียวเข้ม  มีตาอยู่รอบผล  เมื่ออ่อนมีสีเขียว  พอแก่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด  เนื้อสีเหลืองและฉ่ำน้ำ  มีรสหวานอมเปรี้ยวที่นิยมมีอยู่  2 พันธุ์  คือ พันธุ์ภูเก็ต  ผลเล็ก  เนื้อสีเหลืองเข้ม  มีกลิ่นหอม  เนื้อแน่นกรอบอร่อย  แต่ตาสับปะรดจะอยู่ลึก  ส่วนพันธุ์ฮาวายหรือศรีราชา  ผลใหญ่  เนื้อมีความฉ่ำและรสหวาน  เมื่อปอกเปลือกไม่ต้องควั่นตาก็ได้  เลือกสับปะรดแก่เต็มที่มีเปลือกสีเหลือง  ไม่มีตำนิ

สับปะรดปั่น
ส่วนผสม
 เนื้อสับปะรดศรีราชา  
หั่นชิ้นเล็ก   1 ½   ถ้วย
น้ำส้มคั้น   ¾ ถ้วย
น้ำมะนาว    แ   ช้อนชา
น้ำเชื่อม  3  ช้อนโต๊ะ
เกลือ

วิธีการทำ
        1.ผสมสับปะรด  น้ำส้มคั้น  น้ำมะนาว  น้ำเชื่อมและเกลือ  เข้าด้วยกันในชาม  นำไปแช่ในตู้เย็นช่องเยือกแข็งจนเกือบเป็นเกล็ดน้ำแข็ง  นำไปปั่นจนเนื้อเนียนละเอียดเข้ากัน2. รินใส่แก้ว  พร้อมเสิร์ฟ ประมาณ 2 แก้ว

เกร็ดน่ารู้ 
1 .เลือกซื้อสับปะรดศรีราชาผลแก่เต็มที่ ตาใหญ่ เปลือกสีเขียวอมเหลือง  ช้นิ้วดีดมีเสียง ดังแป๊กๆไม่ช้ำหรือไม่เน่า
2.น้ำสับปะรดคั้นสดๆ ช่วยลดอาการเจ็บคอ หลอดลมอักเสบไซนิส อีกทั้งช่วยรักษาบาดแผล
3.การปอกเปลือกสับปะรด ข้อสำคัญมีดที่ใช้ควรเป็นมีดบางด้ามยาว พอประมาณ มีความคมเพราะสับปะรดมีเส้นใยมาก






น้ำลำไย


ผลไม้เก่งเมืองร้อน  ผลมีรูปทรงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง  2.5  ซม.  ผลดิบผิวเปลือกสีน้ำตาลอมเขียว  ผลสุกเปลือกสีน้ำตาลล้วน  เนื้อลำไยสีขาวหรือสีชมพูอ่อน  รสหวานจัด  มีเมล็ดกลมสีดำเป็นมัน  ลำไยมีด้วยกันหลายพันธุ์  เช่น  พันธุ์สีชมพู  พันธุ์เบี้ยวเขียว  และพันธุ์อีดอ  เลือกซื้อลำไยที่ผลโต  เปลือกนอกเรียบออกสีน้ำตาลแก่

น้ำลำไย
ส่วนผสม
ลำไยแห้ง   200  กรัม 
น้ำ                  3  กรัม
น้ำตาลทรายแดง  1 ถ้วย
น้ำแข็งทุบ

วิธีการทำ
        ล้างลำไยแห้ง  ใส่ลงในหม้อน้ำ  ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือด  ใส่น้ำตาล  ต้มนานประมาณ  10  นาที  จนลำไยสุกนุ่มและมีกลิ่นหอมของลำไยแห้งเต็มที่  ปิดไฟ  พักไว้ให้เย็น รินใส่แก้วน้ำแข็ง
        เกร็ดน่ารู้  
    1. ผลลำไยแห้งมีสรรพคุณบำรุงหัวใจ  ระบบประสาท  และช่วยย่อยระบบขับถ่ายเลือกเนื้อลำไยแห้งสีน้ำตาลอ่อน ไม่ดำ  และมีกลิ่นหอม
    2.ลำไยมีด้วยกันหลายพันธุ์  เลือกซื้อลำไยที่มีผลโต  เปลือกนอกเรียบสีออกน้ำตาลแก่  เนื้อหนา  แข็ง  กรอบ  และมี     รสหวานแหลม





พันช์ลิ้นจี่


     ผลไม้ทรงกลมรูปไข่ ผิวเปลือกมีหนามเล็กๆ สีชมพูแดง สีแดงสด และสีแดงคล้ำขึ้นอยู่กับพันธุ์ เลือกลิ้นจี่ที่ผิวตึง เปลือกบาง แกะออกง่าย เปลือกด้านในมีสีชมพูอ่อน เนื้อหนาสีขาวนวล เนื้อของลิ้นจี่มีวิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี2 และเกลือแร่ชนิดต่างๆ ช่วยบำรุงสุขภาพ แก้อาการท้องเดิน

พันช์ลิ้นจี่
ส่วนผสม
เนื้อลิ้นจี่คว้านเมล็ดหั่นชิ้น   1 ถ้วย
น้ำเย็น                           ½ ถ้วย
น้ำมะนาว            2   ช้อนโต๊ะ  
น้ำหวานสีแดง     ½ ถ้วย
น้ำโซดาแช่เย็น  (325  มล.)  1 ขวด
น้ำแข็งชนิดก้อน

วิธีการทำ
1.ใส่ลิ้นจี่และน้ำลงในโถปั่น ปั่นจนละเอียดกรองเฉพาะน้ำใส่ลงในเหยือก ใส่น้ำมะนาวและน้ำหวาน คนให้เข้ากัน พักไว้
2.  รินใส่แก้วน้ำแข็ง  2  แก้ว  ตามด้วยน้ำโซดา  1  ขวด  (แบ่งเป็น  2  ส่วน)  ตกแต่งด้วยเนื้อลิ้นจี่หั่นชิ้นและตกแต่งให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ

เกร็ดน่ารู้ 
 1.  ข้อเด่นของลิ้นจี่อยู่ที่รสหวานหอม  สดชื่น  และมีวิตามินบี  วิตามินซี  และกรดโฟลิกสูง
 2. ลิ้นจี่ที่ดีต้องมีเนื้อหนา   เมล็ดเล็กลีบ เนื้อฉ่ำน้ำ กลิ่นหอม ผิวไม่มีตำนิและแกะเปลือกออกง่าย
 3.ลิ้นจี่ควรแกะจากขั้วผลไล่วนไปรอบๆ จะ
ทำให้เปลือกหลุดจากเนื้อได้ง่าย และน้ำหวานในเนื้อไม่ไหลออกมาด้วยนะค่ะ










น้ำเงาะ


     เงาะรูปร่างกลมรี  มีขนยาว เมื่อยังไม่แก่ขนและผิวมีสีเขียว เงาะพันธุ์โรงเรียนเมื่อแก่สีขนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ส่วนปลายขนเป็นสีเขียว ส่วนเงาะพันธุ์สีชมพู เมื่อแก่จัดสีขนเปลี่ยนเป็นสีชมพูเรื่อๆตลอดทั้งผล เนื้อเงาะสีขาว มีรสหวาน เลือกเงาะที่มีผิวและขนสดเนื้อในหนาฉ่ำไม่แห้ง แกะแล้วล่อนออกจากเมล็ด เนื้อเงาะมีน้ำตาลสูง มีแร่ธาตุต่างๆและวิตามินซีสูงถึง 53   มิลลิกรัม เป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์อุ่น

น้ำเงาะ
เนื้อเงาะหั่นชิ้น  1   ถ้วย
น้ำ    1 ½   ถ้วย
น้ำตาลทราย  1 ½ -2 ถ้วย
เกลือ  1/8   ช้อนชา
น้ำแข็งชนิดก้อน


วิธีการทำ
1.ต้มเงาะกับน้ำในหม้อด้วยไฟกลางพอเดือดนานประมาณ  นาที  หรือจนสุกนุ่มใส่น้ำตาล  เกลือ  ต้มจนน้ำตาลละลาย  ปิดไฟ  ยกลง  พักไว้ให้เย็น
2.รินน้ำเงาะและเนื้อเงาะที่ต้มใส่แก้วน้ำแข็งตกแต่งให้สวยตามใจชอบ

เกร็ดน่ารู้ 
1. เนื้อเงาะสีขาวหรือมีนวลใสหุ้มเมล็ดรสหวานหรือหวานอม เปรี้ยวขึ้นอยู่กับพันธุ์ค่ะ
2 .เนื้อเงาะมีสรรพคุณในการรักษาอาการท้องร่วงได้เป็นอย่างดี แก้บิด  แก้ท้องอืด  ท้องเฟ้อ  และบำรุงกำลัง

เฟรปเป้มังคุด


มังคุดผลกลมสีม่วงสวยหัวจุกเขียวกลีบมนรอบๆ  รสหวานอมเปรี้ยว  กลิ่นหอมอ่อนๆเลือกมังคุดเล็กโดยเฉลี่ย  15 ผลต่อ 1 กิโลกรัม เพราะมีเนื้อมากเม็ดลีบ เลือกผลสุก เปลือกสีม่วงเข้ม ผิวไม่มัน ไม่แห้ง เนื้อของมังคุดอุดมไปด้วยเส้นใยที่มากเป็นพิเศษมิตามินบี1 วิตามินบี2 และเกลือแร่ชิดต่างๆ ช่วยให้ระบบขับถ่ายในร่างกายทำงานได้ดี มีฤทธิ์เย็นจึงช่วยลดความร้อนในร่างกาย ทำให้ไม่เป็นแผลร้อนใน

 เฟรปเป้มังคุด
ส่วนผสม
องุ่นสีแดง
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ+1¼ ช้อนชา
เนื้อมังคุดหั่นชิ้น    1  ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
เนื้อมังคุดและยอดสะระแหน่สำหรับตกแต่ง

วิธีการทำ
1.คั้นองุ่นด้วยเครื่องแยกกากแยกน้ำ  (จะได้ปริมาณ ½ ถ้วย)  เทใส่ถ้วย  ใส่มะนาว ¼  ช้อนชา  (เพื่อให้น้ำองุ่นสีไม่คล้ำ) คนพอเข้ากันนำไปแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งจนเกือบเป็นเกล็ดน้ำแข็ง แล้วใส่ลงในโถปั่น  ใส่เนื้อมังคุดน้ำมะนาวที่เหลือและน้ำผึ้งปั่นจนเนื้อเนียนละเอียดเข้ากัน
2.รินใส่แก้วตกแต่งด้วยเนื้อมังคุดและยอดสะระแหน่พร้อมเสิร์ฟ ได้ประมาณ 2 แก้ว

เกร็ดน่ารู้  
เลือกมังคุดโดยใช้นิ้วชี้จิกที่ก้นลูก  หากไม่แข็งก็ใช้ได้  ล้างแล้วซับน้ำให้แห้งใช้มีดเฉือนรอบๆผลบิเปลือกทั้งสองด้านนอกแกะเอาแต่เนื้อน่ะจร้า